กรณี น.ส.จุฑาภรณ์ หรืออ้อย อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวปริศนา ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.2560 หลังขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีเทา ทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ไปส่งบุตรสาวที่โรงเรียน อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาพบรถยนต์ของ ผอ.อ้อยในอู่รถกำลังจะถูกเปลี่ยนสีใหม่ หลังมีการขายต่อกันเป็นทอดๆ 2-3 ต่อ พร้อมกันนี้ตำรวจได้ออกหมายเรียก ดำเนินคดีกับ ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือ “ผู้กองเหน่ง” ผู้บังคับกองร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ถูกสอบ 4 ข้อหาหลังมีพยานหลักฐานเกี่ยวข้อง

สักพักเจ้าหน้าที่ตำรวจตามยึดรถได้ที่อู่ซ่อมทำสี แห่งหนึ่งใน จ. อุบลราชธานี และวันที่ 11 ส.ค. นายทหารพระธรรมนูญ นำตัว ร.อ.ศุภชัย ภาโส ผู้บังคับกองร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องสงสัยเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกเพื่อรับทราบข้อหาและให้การปฏิเสธทั้ง 4 ข้อกล่าวหา ขณะที่เมื่อวานนี้ (13 ส.ค.) พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย รอง ผบช.ภ. 3ได้ลงพื้นที่ติดความคืบหน้าคดี ประกาศไม่เกิน 1 สัปดาห์ คดีจะมีความชัดเจน

เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวน เพื่อหาพยานหลักฐานในคดีอย่างเต็มที่ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจากตำรวจภูธรภาค 3 ภาค 4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ลงพื้นที่มาร่วมกันคลี่คลายคดี ซึ่งคดีมีความรุดหน้าไปเป็นอย่างมาก

ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีเร่งติดตามหาตัวของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ซึ่งเป้าหมายอยู่ที่จุดพิกัดสัญญาณโทรศัพท์จุดสุดท้ายที่ขาดการติดต่อไป บริเวณ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ติดกับแนวชายแดนไทยประเทศเพื่อนบ้าน และจากการออกไปค้นหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์ ได้ประสบปัญหาสำคัญคือ บริเวณดังกล่าวยังคงมีกับระเบิดหลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่เข้าไปค้นหาได้ ต้องใช้ผู้ชำนาญพื้นที่เข้าไปช่วยในการค้นหา ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาพอสมควร รวมทั้งมีการประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่ให้ช่วยค้นหาอีกทางหนึ่งด้วย

ล่าสุดวันที่ 16 สิงหา ได้มีเพจ ” ข่าวช่องวัน ” ได้รายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบจุดที่เผาศพ ผอ.อ้อยแล้ว โดยศพถูกเผาจนเหลือแต่เศษเสื้อผ้าอยู่บนพื้นดินบริเวณอ่างเก็บน้ำ “สามเหลี่ยมมรกต” พื้นที่ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเดินทางเข้าตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานต่างๆ และกันพื้นที่ไม่ให้ผู้ใดเข้ามายุ่งเหยิงหรือทำลายหลักฐาน เพื่อรอเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้ามาตรวจชันสูตรศพอย่างละเอียดต่อไป